ระบบสมาชิก หรือ Membership เป็นวิธีที่หลายๆ ธุรกิจมีไอเดียอยากจะทำ เพราะหลายคนคงจะมองว่า มันช่วยทำให้ลูกค้าจงรักภักดีกับแบรนด์ เนื่องจากได้เป็นสมาชิกกับทางสินค้าหรือบริการที่เราทำแล้ว แต่จริงๆ รู้ไหมว่า การที่เราใช้ ระบบสมาชิก ในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการนั้น มันมีประโยชน์มากกว่าการที่จะให้ลูกค้าติดในแบรนด์มากกว่านั้นเยอะ ว่าแต่มีอะไรกันบ้าง มาติดตามกัน
บทความก่อนหน้านี้ได้มีการแชร์เรื่องข้อมูลไปบ้างละ ตั้งแต่
- ข้อมูลการขาย มีประโยชน์ เคยเอามาใช้แล้วหรือยัง
- ธุรกิจเติบโต ด้วยการใช้ข้อมูล
- ข้อมูลการขาย เอามาจากใหน?
วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อเชิงบุคคล
การที่เรามีการเก็บการซื้อของสมาชิก อย่างแรกที่เราจะรู้เลยก็คือ สมาชิกเหล่านั้นปกติเขาซื้ออะไรบ้าง เขามาแต่ละครั้งทำไมเขาซื้อแต่ของประเภทนั้นซ้ำๆ ซึ่งหากเรารู้ข้อมูลในระดับนี้จะช่วยให้เราแนะนำสินค้าต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น เวลาที่ลูกค้ามาที่หน้าร้าน เราสามารถให้พนักงานที่บริการ แนะนำสินค้าที่เขาชอบได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งเดาเลยว่าเขาอยากจะได้อะไร ที่สำคัญ เราสามารถวางแผนได้ด้วยว่า ถ้าเขามาแต่ละครั้งจะซื้ออะไร เราสามารถแนะนำสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันได้ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเพิ่มยอดขายและจำนวนสินค้าให้แก่ลูกค้าสมาชิกเหล่านั้นได้ง่ายยิ่งขึ้นก็เป็นไปได้นะ
ออกแบบการตลาดเชิงรู้ใจ
อีกอย่าง ระบบสมาชิกสามารถกำหนดการตลาดได้เลย เพราะการที่เราได้รู้แล้วว่าเขาอยากจะซื้ออะไรในแต่ละครั้ง ซื้ออะไรบ้าง แล้วมาซื้อบ่อยแค่ใหน เราสามารถเอามาวางในการทำการตลาดได้เลย ซึ่งถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็อย่างเช่น เคยไหมที่เราได้รับโปรโมชันอะไรก็ไม่รู้ พอเราดูโปรโมชัน ก็รู้สึกว่า ให้มาทำไมวะเนี่ย ไม่ได้อยากจะได้ ซึ่งถ้าให้มองในมุมของลูกค้า โปรโมชันเหล่านั้น ใครหรืออยากจะใช้โปรโมชันที่สินค้าหรือบริการนั้นมอบให้
ดังนั้นหากเราจะส่งโปรโมชันให้รู้ใจลูกค้า ก็เอาข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้านี้แหละมาใช้ เช่น ทุกๆ ต้นเดือน ลูกค้าชอบมาซื้อสบู่ อาจจะเพราะสบู่หมดหรือว่ายังไงก็แล้วแต่ แล้วทุกครั้งที่เขามาซื้อสบู่ มันจะหยิบขนมปังไปด้วย (แต่ไม่ได้หยิบขนมปังทุกครั้ง) ถ้าเราจะทำโปรโมชัน ก็ทำโปรโมชันด้วยการส่งส่วนลดแต่เนิ่นๆ เลยตั้งแต่ต้นเดือนหรือปลายเดือน เพื่อให้ลูกค้าพร้อมที่จะเอาโปรโมชัน ชนมปัง ไปใช้ตอนที่หยิบสบู่ ซึ่งนั้นจะช่วยให้เขาตัดสินใจซื้อขนมปังบ่อยขึ้นนั่นเอง
คาดการณ์การกลับมาซื้อใหม่
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจไปข้างหน้าได้ คือการรักษาฐานลูกค้าเก่า เพราะหากเราคาดการณ์ว่าเขาจะกลับมาซื้อใหม่ตอนใหน กลับมาแต่ละทีเขาจะซื้ออะไรอะไรบ้าง เราสามารถเอาข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการสำรองสินค้าได้เลยนะ เพื่อให้ทุกครั้งที่เขากลับมา เขาจะมีของที่เขาอยากได้ทุกครั้ง ไม่ใช่ว่ามาแล้วของไม่มี บอกเลยว่าเสี่ยงมาก ที่เราทำให้ลูกค้าที่เคยซื้อจากเราหลุดไปซื้อจากที่อื่น
อีกทั้งข้อมูลสมาชิกยังสามารถรู้ได้อีกว่า จากเดิมที่ลูกค้าเคยซื้อสินค้า 3-4 อย่าง อยู่ดีๆ ก็เหลือแค่ 1-2 อย่าง เราก็พอจะสังเกตุได้นะ ว่าทำไมอยู่ดีๆ สินค้าที่เขาเคยเอาเขาไม่เอา ซึ่งไม่แน่ เขาอาจจะเจอร้านที่ราคาดีกว่า เลยเราอาจจะโดนตัดราคาอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งสัญญาณเหล่านี้ช่วยเราได้เยอะในการป้องกันให้ลูกค้ากลับมาซื้อใหม่ในสินค้าที่เขาเคยซื้อได้ดียิ่งขึ้น
ป้องกันลูกค้าหาย
หลายครั้ง ที่เราขายของโดยไม่เคยสนใจคนมาซื้อเลย โดยที่เราสนใจเพียงแค่อย่างเดียว นั่นก็คือ ยอดขายแต่ละเดือน แต่สาระรีฟจะบอกทุกท่านเลยว่า การขายของแบบนี้เสี่ยงมาก เพราะพอยอดขายลด เราก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงลด อาจจะมาจากลูกค้าไปร้านใหม่ไหม ลูกค้าซื้อน้อยลงหรือเปล่า หรือลูกค้าไม่อยากได้ของที่เราขายแล้ว ซึ่งข้อมูลพวกนี้บอกเลยว่า ข้อมูลสมาชิกช่วยได้เยอะมาก เพราะถ้าใครอยู่ดีๆ ก็หายไปดื้อๆ เราสามารถไปสอบถามเขาได้เลย ซึ่งการสอบถามมีหลายแบบ ตั้งแต่ เบอร์โทรที่เขาสมัคร เพื่อที่จะรู้ว่าจริงๆ เขาแค่ไปเที่ยวต่างจังหวัด เลยไม่ได้มาซื้อ หรือจริงๆ แล้วเขายหายอย่างถาวร
ติดตามหัวข้ออื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี้ได้ต่อเลยนะครับ
- ปี 2021 จะปรับตัวธุรกิจอย่างไรดี
- สร้างธุรกิจให้เติบโต ตอน กล้าแตกต่าง
- ธุรกิจเจ๊ง ถ้าไม่ระวัง 5 อย่างนี้
ช่องทางติดตามผลงาน
ติดตามผลงานช่องทางต่างๆ ได้
Facebook: https://www.facebook.com/sararifmkt
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCUt1RPFDIOaFnrogwZHi34Q
Tiktok : https://www.tiktok.com/@sararifmkt
Line : https://lin.ee/3KWTirDxI
Website : https://www.sararif.com