ธุรกิจเจ๊ง เป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคนที่จะเริ่ม หรือ ทำธุรกิจอยู่แล้ว เพราะเป็นคำที่ทำให้สิ่งที่ทำมาล้มได้อย่างง่าย ๆ เลย บางครั้งอาจจะอยู่ในรูปแบบของคำพูดในช่วงเริ่มก็ เห็นได้ไม่น้อย เช่น เวลาคนจะเริ่มทำธุรกิจ ก็จะเจอคำพูดจากคนรอบตัว ประมาณว่า อย่าทำเลย เดี๋ยว ธุรกิจเจ๊ง , คุ้มหรอ ไม่กลัวเจ๊ง หรอ แล้วอีกหลายคำพูด ที่บั่นทอน ความตั้งใจในการเริ่มต้น
แต่สำหรับคนที่ทำธุรกิจอยู่ อ่านบทความนี้ สาระรีฟ จะสรุป 5 อย่างที่ จะทำให้ ธุรกิจเจ๊ง ซึ่งทั้งหมด สรุปมาให้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวล้วน ๆ กรั่นกรองมาเป็นหัวข้อง่าย ๆ ให้ทุกคนได้กลับไปวางแผน บริหารจัดการธุรกิจตัวเองได้เลย งั้นมาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง
หนู แมลง และสัตว์ต่าง ๆ
ใครเปิดธุรกิจร้านขายของชำ หรือ สินค้าจำพวกอาหารนี้ ไม่พ้นกับสิ่งแรกที่ควรต้องระวังเป็นอันดับต้น ๆ เลย ก็คือ ปัญหาจาก หนู แมลง หรือสัตว์ต่าง ๆ ที่จะกัดกิน สินค้าของร้านค้าให้เสียหาย สาระรีฟ จะลองไล่ทีละประเภทของสัตว์เลย ว่าจะประเภทใหนที่จะเข้ามารบกวนอะไรบ้าง
หนู แมลง หรือสัตว์อื่นๆ
ในที่นี้จะยกตัวอย่างของ หนู แมลงสาป หลายคนเห็นภาพกันอยู่แล้ว ถ้าเล็ดรอดเข้ามาในร้านได้สักตัว แล้วเรารู้ตัวช้าเนี่ย ของโดนกัดเละเทะแน่นอน ซึ่งสัตว์พวกนี้ ไม่ได้กัดแค่จะกินเท่านั้น แต่บางทีมันกัดเล่นก็มี อารมณ์ไม่ได้อยากกิน แต่อยากกัด
บอกเลยครับ ส่วนนี้ ถ้าโดนไปทีนี้ ธุรกิจใหนที่ไม่ได้มีกำไรสินค้ามากมาย จากการขายสินค้า โดนกัดไป 1-2 ชิ้น ต้องขายของอีกกี่ชิ้น ถึงจะคลุมค่าต้นทุนสินค้าที่เสียไป ถ้ายังมองไม่เห็นภาพ ก็ลองมองถึง ของขาย 15 บาท ทุน 12 บาท กำไร 3 บาท โดนกัดไป 1 ชิ้น ต้องขาย 5 ชิ้นถึงจะคืนทุนเชียวนะ แต่ในความเป็นจริง ไม่ได้โดนชิ้นเดียวไง
อีกอย่างที่ไม่แพ้ หนู หรือ แมลง ก็คือ น้องแมว กับ น้องหมา นี้แหละ กัดเล่นขึ้นมา นี้ โอ้ว ไม่ต่างกันเลยกับหนู และแมลงที่กล่าวมาข้างต้นเลยครับ
นก
หลายคนคงจะสงสัย เอ๊ะ นกนี้นะ มันมาทำอะไรกับร้าน อันนี้จะยกเคสของ ร้านของชำที่ขาย พวกข้าวสารแบบตวงละกัน ซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดนก อย่างดีเลย มันไม่ได้มาแค่ กินนะ แต่ขี้เรี่ยราด เลย ไม่ว่าจะเป็นที่วางสินค้า หรือบางทีขี้ลงบนกระสอบเลยก็มี
คอรัปชั่น
ปัญหาใหญ่มาก ในเรื่องของการ ฉ้อโกง จากคนภายในกิจการเอง ซึ่งผลลัพธ์จากส่วนนี้ ร้ายแรงกว่า หัวข้อจากสัตว์เลย เพราะถ้าเสียหายนี้ เยอะมากจากสิ่งที่โดนไป อาจจะอยู่ในรูปแบบของตัวเงิน หรือดีไม่ดี อาจจะโดนดึงลูกค้าไปทั้งยวง จนทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้เลยก็มี ส่วนหัวข้อนี้จะมาสรุปให้ครับ ว่าการคอรัปชั่น จะมาในรูปแบบใหนกันบ้าง
การเงิน
มาพูดในเรื่องของการเงินกันก่อน ใครที่มีรูปแบบของธุรกิจที่ คนในองค์กร มีหน้าที่ในการบริหารเงิน อาจจะมาจากการเก็บเงินโดยตรงจากลูกค้า และเอามาให้บริษัท ส่วนนี้ไม่น้อยเลย ที่กิจการโดนกัน คือ พนักงานแอบเอาเงินไปใช้ส่วนตัว โดยไม่บอก จนกว่ากิจการจะรู้ตัว ก็ตอนที่เงินที่ควรได้ทำไม ไม่ได้มา หรือลูกค้าทำไมค้างนานจังในระบบ (จริง ๆ จ่ายเงินมาให้ พนักงานแล้ว แต่เข้าไม่ทำเรื่องจ่าย)
โดนดึงลูกค้า
ในหัวข้อนี้ จะเป็นธุรกิจที่ มีพนักงานขายที่เข้าไปติดต่อลูกค้าโดยตรง โดยที่กิจการไม่มีระบบในการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งมีโอกาสสูงมาก ที่พนักงานนั้น สามารถรับงานส่วนตัว แอบดึงลูกค้าไปทีละเจ้า สองเจ้า จนมารู้อีกที รายได้ของกิจการลดลงอย่างมาก แถมเคสร้ายแรงสุดคือ พนักงานนั้นไปเปิดบริษัทใหม่ เพื่อมาขายสินค้า หรือ บริการที่เหมือนเรา ได้เลย ถ้าโดนแบบนั้นกิจการอาจจะมีผลกระทบด้านการเงินอย่างร้ายแรงก็เป็นได้
เวลาทำงาน
สำหรับ เวลาทำงานที่โดนคอรัปชั่น คือ เวลาที่ต้องทำงาน แต่ไม่ได้ทำงาน อาจจะมาจากการ แว๊ปไปนู่นที หรือ เอาเวลาไปทำงานส่วนตัว โดยผลลัพธ์ที่พนักงานคนนั้นควรทำได้ กลับเหมือนไม่ได้ทำงาน เราจะรู้สึกว่า ทำไมยอดไม่ขึ้นเลย วัน ๆ ทำงานบ้างไหมเนี่ย เป็นต้น
ใครที่มีพนักงานที่เป็นแบบนี้ ต้องมีระบบบริหารจัดการ โดยเอาตัวชี้วัดมาตั้งด้วยนะครับ ไม่งั้นปล่อยให้ทำตามใจ โดยไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเลย เราอาจจะจ้างฟรีก็เป็นได้ ซึ่งหากเอางบนั้น มาทำอย่างอื่น อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าก็เป็นได้ครับ
สต๊อกสินค้ามากไป
สำหรับส่วนนี้ ธุรกิจมีโอกาสเจ๊งสูง หากเราไม่มีการบริหารสินค้าคงคลังที่ดีพอ จะกลายเป็นว่า เราสต๊อกสินค้าเยอะไป แถมกิจการที่ต้องขายสินค้าหลากหลายนี้ เงินจะจมกับค่าสินค้าที่เก็บใว้มาก ซึ่งเราอาจจะไม่รู้ในตอนแรกว่า อะไรขายดี จนทำให้เราซื้อมาลองขายก่อน นำไปสู่สินค้าหลายตัวขายไม่ออก จนเงินไม่สามารถมาหมุนกับสินค้าใหม่ ๆ ได้เลย
แนวทางแก้ไข
วิธีการจัดการส่วนนี้ สาระรีฟแนะนำให้ ยอมที่จะมีต้นทุนสินค้าสูงไปก่อนครับ ในช่วงแรก ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องซื้อยกลัง หรือ ซื้อจำนวนเยอะ ๆ มาเก็บเพื่อหวังว่าจะได้ของที่ต้นทุนถูกสุด แต่รู้ไหม ต้นทุนที่ถูกในการซื้อ แต่อาจจะแพงในการจัดเก็บก็เป็นไปได้ครับ ดังนั้นสินค้าอะไรที่อยากลองมานำขาย ซื้อทีน้อย ๆ ก่อน จนเรามั่นใจว่า ของไปไว ค่อยซื้อทีละมาก ๆ ทีหลักก็ไม่สายไปครับ
ของหมดอายุ
จากสาเหตุข้างต้น ที่เราเก็บสินค้ามากเกินไป โดยที่สินค้าเหล่านั้นออกช้า ส่วนที่จะตามมาอีกก็คือ สินค้าดังกล่าวที่ซื้อมาเยอะ แต่ขายไม่ค่อยดี ของดังกล่าวก็จะเริ่มหมดอายุ สาเหตุของการที่ต้องทิ้งสินค้าเป็นจำนวนมาก หากเราบริหารสินค้าคงคลังได้ไม่ดีพอ
แนวทางการแก้ไข
หากสินค้าที่เราเก็บใว้มากจนเกินไป หรือเก็บใว้ในระดับที่พอดีนั้นแหละ แต่ของพวกนั้นดันเข้าใกล้หมดอายุ สาระรีฟแนะนำให้ ทางกิจการเอาสินค้าเหล่านั้นมาทำลดแลก แจก แถม หรือ กิจกรรมของทางร้านไปเลย เพราะอย่างน้อยได้มีการเรียกลูกค้าเข้าร้านได้แล้ว อย่างน้อยก็ได้ระบายของที่กำลังเข้าใกล้วันหมดอายุได้อีกด้วย
เงินหมุนเวียน
ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ไม่แพ้กัน กับ 4 อย่างข้างต้นที่ได้กล่าวมานั้นคือ เงินทุนหมุนเวียน เพราะ หากเอามาเปรียบเทียบ ก็เหมือนกับเส้นเลือดใหญ่ ของกิจการเลย หากเส้นเลือดใหญ่ขาด เลือดก็จะใหลไม่หยุด จนทำให้ร่างกายเข้าสู่อันตรายได้
เงินหมุนเวียน ที่จะเป็นปัญหา ของกิจการนั้นมาจากหลายสาเหตุ โดยหัวข้อที่กล่าวมา ส่งผลกระทบกับเงินทุนหมุนเวียนแทบทั้งสิ้น เพราะสินค้าที่เสียไป หรือเงินที่หายไปจากการคอรัปชั่นมันทำให้ เราไม่มีเงินมากพอในการทำให้กิจการไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้เงินที่ต้องไปจ่ายกับเจ้าหนี้ คู่ค้า ก็ฝืดลง อาจจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพบริการที่แย่ลงไป จากการที่เงินไม่เพียงพอได้เช่นเดียวกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ว่า 5 สาเหุตหลักที่กล่าวมา หากเราบริหารไม่ดี มีโอกาสทำให้ ธุรกิจล้มเหลว สูงมาก ซึ่งการที่ธุรกิจใด ธุรกิจหนึ่ง ต้องปิดตัวลง ไม่ใช่เพียงแต่การตลาดไม่ดี แต่อาจจะมาจากการบริหารจัดการภายในองค์กรได้เช่นเดียวกันครับ
สำหรับเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- ทำธุรกิจ ให้เหนื่อยน้อยลง ลองอุดรูรั่วของธุรกิจซะ
- การปรับเปลี่ยนธุรกิจ เพื่อความอยู่รอดในยุค Covid-19
- Sales Funnel เรื่องที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้จัก
- ช่องทางขายออนไลน์ เลือกขายที่ใหนก่อนดี?
ช่องทางติดตามผลงาน
ติดตามผลงานช่องทางต่างๆ ได้
Facebook: https://www.facebook.com/sararifmkt
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCUt1RPFDIOaFnrogwZHi34Q
Tiktok : https://www.tiktok.com/@sararifmkt
Line : https://lin.ee/3KWTirDxI
Website : https://www.sararif.com