นักธุรกิจที่สำเร็จ ต้องมีอะไรบ้าง

นักธุรกิจที่สำเร็จ ต้องมีอะไรบ้าง ซึ่งหัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่น่าสนใจอยากเอามาแชร์สำหรับคนที่ฝันอยากจะเริ่มทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี บางคนก็อาจจะไม่มั่นใจว่าจะทำธุรกิจตามที่ตัวเองฝันให้ประสบความสำเร็จเหมือนกับคนที่เรากำลังติดตาม ชื่นชอบได้ไหม ซึ่งบุคคลเหล่านี้ที่ล้วนแล้วประสบความสำเร็จ ในมุมของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการเติบโต การมีเวลาว่างมากขึ้น ฐานะทางการเงิน เป็นต้น ว่าแต่พวกเขามีบุคลิคกันอย่างไร แล้วต้องทำอย่างไร ถึงจะสำเร็จ บทความนี้ สาระรีฟ เลยมาสรุปให้ทุกคนได้อ่านกันว่า 5 อย่าง ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ต้องมี ประกอบด้วยอะไรบ้าง

เริ่มเมื่อไม่พร้อม

ส่วนแรก หากใครคิดว่า รอพร้อมก่อนแล้วทำธุรกิจ บอกเลยว่าคิดผิด เพราะกว่าจะพร้อม เมื่อใหร่จะพร้อม หากพร้อมแล้วสิ่งที่เราจะทำมันยังไปได้อีกไหม คนไม่แย่งตลาดก่อนหรอ กว่าที่เราจะพร้อม ซึ่งบอกเลย ว่าการที่จะรอให้พร้อมก่อนแล้วค่อยทำ ส่วนมากเลยจากที่สาระรีฟ สัมผัสมา คือ สิ่งเหล่านั้นส่วนมากจะเป็นฝัน ลมๆ แล้งๆ ไปเลย

เพราะเวลาผ่านไป ความรู้สึกอยากทำเราจะเริ่มลดลง จนรู้สึกว่า ไม่ทำมันแล้วละกัน ขี้เกียจละ แล้วก็หาฝันใหม่ต่อ สุดท้ายก็ยังไม่ทำฝันใหม่อีก เพราะรอให้พร้อม การใช้ความคิดแบบนี้ในการทำธุรกิจ จึงเป็นสิ่งที่คนประสบความสำเร็จเขาไม่ทำกัน ลองสังเกตุสิ มีใครบ้าง ที่ทำสิ่งนั้นได้ดี โดยที่เขาพร้อมตั้งแต่แรก ไม่มีหรอก มีแต่ทำเท่าที่ตัวเองทำได้ ผลที่ได้อาจจะไม่ดีเท่าใหร่ แต่คนที่เขาเริ่มทำ จะต้องรู้ว่า จะทำยังไงให้ดีขึ้น แล้วค่อยเรียนรู้ระหว่างทางนั่นเอง

โอกาสมาต้องรีบคว้า

อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ โอกาส ซึ่งทุกคนที่ประสบความสำเร็จ ล้วนมาจากโอกาสที่ตัวเองได้รับจากสถานการณ์บางอย่าง แต่การที่เขาจะได้รับโอกาสเหล่านั้น มาจากการที่เขาเห็นโอกาส แล้วรีบไปคว้ามันให้ได้ เพราะไม่งั้นโอกาสที่เข้ามา อาจจะหลุดหายไปก็เป็นได้

ดั่งเช่น มีโอกาสบางอย่างที่ดีมากเลย แต่หากตัวเราเองรู้สึกว่า ไม่กล้าไปรับโอกาส ขี้เกียจที่จะเข้าไปหาโอกาส กลัวความวุ่นวาย หรือ เหตุผลอะไรก็แล้วแต่ก็ตาม สิ่งเหล่านั้นล้วนแต่เป็นการตัดความสำเร็จให้ช้าลง เพราะโอกาสดีๆ เราไม่เห็นค่ามัน อยากจะได้มันมาง่ายๆ อะไรยากๆ วุ่นวาย ต้องเตรียมตัวเยอะ ก็ไม่เอามันดีกว่า แบบนี้อาจจะพลาดสิ่งที่เปลี่บนชีวิตเราเลยก็เป็นไปได้ ดังนั้นหากมีโอกาส ไม่ว่าจะเล็ก หรือ ใหญ่ หากทำให้เราต่อยอดสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น ก็กล้าๆ เข้าไปรับโอกาสนั้นหน่อยละกัน

ต่อยอดโอกาสเป็น

ใครเคยได้ยินทฤษ Connecting the dot บ้าง สิ่งนี้คือสิ่งที่ สาระรีฟกำลังจะบอกว่านั่นคือการต่อยอดโอกาสที่เรามี ไปเป็นโอกาสอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยทฤษฎีตัวนี้ว่าด้วย สิ่งที่เราทำในวันนี้ จะเป็น 1 จุดบนแผ่นกระดาษ ซึ่งในช่วงชีวิต เราได้ทำหลายสิ่ง ผ่านพบเจอหลายอย่าง แต่คนที่สามารถสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้ คือคนที่สามารถเอาจุด แต่ละจุดที่อยู่บนแผ่นผืนกระดาษมาเชื่อมต่อกัน โดยที่แต่ละจุดที่เชื่อมก็ส่งเสริมซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นอีก 1 โอกาสที่เราสามารถทำให้ดีขึ้นได้

ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็ประมาณว่า สมมติวันนี้เราได้มีโอกาสไปเรียนทำอาหารที่สถาบันแห่งหนึ่ง เราก็เริ่มทำอาหารจนสามารถมีทักษะเหล่านี้ติดตัว แต่เราอาจจะยังไม่ได้เอามาทำเป็นธุรกิจ สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นจุดหนึ่งของแผ่นกระดาษนั้น พอต่อมาเราได้เจอเพื่อนคนนึงทำ Youtube เป็น เขามาที่บ้านแล้วกินอาหารที่เราทำแบบง่ายๆ แต่รู้สึกว่า เฮ้ย รสชาติที่ทำมันอร่อย เอาอย่างนี้กันไหม เรามาทำช่องทำอาหารกัน ใช้ครัวที่มีนี้แหละมาทำ ซึ่งหากเราได้เริ่มทำ มันก็จะเป็นอีก 1 จุดที่เชื่อมต่อกันจนเป็นโอกาส ซึ่งการที่เราทำต่อเนื่องเรื่อยๆ ใครจะไปรู้ว่า เราอาจจะเป็นเจ้าของร้านอาหารที่มีสาขากระจายทั่วประเทศ ในรูปแบบของแฟรนชายส์ พร้อมกับเปิดสถาบันสอนทำอาหารที่มีชื่อเสียงก็เป็นไปได้ นั่นแหละคือการต่อยอดโอกาสที่เรามีวันนี้ ให้เป็นโอกาสใหม่อย่างต่อเนื่อง

สร้างความสัมพันธ์กับคน

นักธุรกิจที่สำเร็จ ส่วนหนึ่งเลยที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การที่เขาได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนฝูง ที่ช่วยสนับสนุนเขาจนได้ดีในการงานที่เขาทำ ซึ่งสาระรีฟเคยได้ฟัง Podcast ช่องหนึ่ง ได้มีตอนหนึ่งที่ฟังแล้วรู้สึกว่ามันใช่ นั่นก็คือ คนที่ประสบความสำเร็จ จริงๆ แล้วไม่ใช่มาจากตัวเขาเอง แต่ความสำเร็จส่วนมากมาจากคนเบื้องหลังของเขาที่ผลักดันเขา จนทำให้เขาประสบความสำเร็จนั่นเอง

สิ่งนี้คือสิ่งที่สาระรีฟ รู้สึกว่า การที่เรามีคนรอบกายที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุนผลงาน หรือสิ่งที่เราทำโดยมอบโอกาสใหม่ๆ ทั้งการแนะนำ ทั้งการดึงไปร่วมงาน นั่นคือการที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบกายนั่นเอง ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้ หลายคนก็มักจะเรียกกันว่า คอนเน็คชั่น (Connection) นั่นเอง ดังนั้นหากอยากประสบความสำเร็จ สิ่งที่เราพึงต้องมีก็คือ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบกายใว้มากๆ คนเหล่านั้นจะเข้ามาสนับสนุนเราแบบที่เราไม่รู้ตัว ในวันใดวันหนึ่ง ดังนั้นจงให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้มากๆ นะครับ

พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

สิ่งสำคัญสุดท้ายที่ นักธุรกิจที่สำเร็จ มีก็คือ การพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายถึง ไม่ว่าวิกฤติจะมา โอกาสใหม่จะเกิด เขาก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาได้เสมอ โดยไม่นั่งมาคิดว่า สิ่งที่ทำอยู่ก่อนหน้านี้จะเสียดายไหมน้า หรือ ถ้าเปลี่ยนแปลงไปแล้วมันจะดีขึ้นจริงหรือเปล่า (หากอยู่เฉยๆ เหมือนเดิมอาจจะสบายกว่าก็ได้) พวกความคิดเหล่านี้แหละ ที่คนที่อยากประสบความสำเร็จ เขาเตรียมตัวในการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นมีหลายแบบมาก ตั้งแต่ทิ้งอดีตไปเลยและทำของใหม่เพื่อโอกาสที่ใหญ่กว่า หรือ การเปลี่ยนแปลงที่ของเดิมยังคงอยู่แต่เพิ่มเติมอะไรบางอย่างให้ดีขึ้น แต่ต้องแลกด้วยการที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมบ้าง สิ่งเหล่านั้นแหละเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะนำพาธุรกิจที่ทำอยู่ ไปสู่เป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) ได้มีการพูดถึงการเปลี่ยนแปลง ในรูปแบบของการ PIVOTING ให้แปลง่ายๆ ก็เหมือนเกมส์รูบิค ที่บล้อกที่สามารถเลื่อน พลิกไปมาทางใหนก็ได้ หากเราพลิกอย่างมีหลักการที่เหมาะสม ถูกต้องกับสถานการณ์ มันก็จะช่วยให้รูบิคนั้นสามารถเป็นสีเดียวกันในทุกหน้าได้นั่นเอง

เป็นยังไงกันบ้างครับ อ่านแล้วได้ประโยชน์อะไรกันบ้าง ใครเอาไปใช้ในการทำงาน หรือ ทำธุรกิจของตัวเองได้ ก็ยินดีมากเลยนะครับ สาระรีฟเอง อยากเห็นผู้อ่านทุกท่าน ประสบความสำเร็จในมุมที่แต่ละคนอยากได้กันถ้วนหน้าครับ ใครอยากให้สาระรีฟมาแบ่งปันเรื่องอะไร ก็บอกกันได้ จะได้มาเขียนบทความมาแชร์กันได้ครับ

ติดตามหัวข้ออื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี้ได้ต่อเลยนะครับ

• ปี 2021 จะปรับตัวธุรกิจอย่างไรดี
• สร้างธุรกิจให้เติบโต ตอน กล้าแตกต่าง
• ธุรกิจเจ๊ง ถ้าไม่ระวัง 5 อย่างนี้

ช่องทางติดตามผลงาน

ติดตามผลงานช่องทางต่างๆ ได้

Facebook: https://www.facebook.com/sararifmkt

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCUt1RPFDIOaFnrogwZHi34Q

Tiktok : https://www.tiktok.com/@sararifmkt

Line : https://lin.ee/3KWTirDxI

Website : https://www.sararif.com