รายการ นิลมังกร เป็นรายการหนึ่งที่เฟ้นหา เจ้าของธุรกิจ ที่มีแนวคิดในการปรับใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งเป็นรายการที่ฉายทางช่อง 7 มีผู้จัดหลักโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งหลายในการคัดเลือกธุรกิจจากทุกภูมิภาค
สำหรับธุรกิจทั้งหมด จะผ่านการเข้าร่วมอบรมกับทางหน่วยงานพันธมิตรในแต่ละภูมิภาคก่อน โดยทางรายการจะนำวิทยากรระดับประเทศมากมายมาอบรมให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อรับรู้เนื้อหาพื้นฐานต่างๆ ให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนธุรกิจในการเติบโต โดยมีนวัตกรรมเป็นตัวตั้งต้น ก่อนที่จะคัดเลือกในแต่ละภูมิภาคต่อไป
รอบคัดเลือกภูมิภาค
รอบที่สาระรีฟ เข้าจะเป็นซีซัน 1 ของทางรายการ ซึ่งเป็นปีแรกของทางรายการที่จัดการแข่งขัน โดยผู้ที่เข้าร่วมอบรมในรอบนี้จะมีราวๆ 100 กิจการได้มั้ง ถ้าจำไม่ผิด จากธุรกิจทั่วภาคใต้ เพื่อมาอบรมกันที่ อุทยานวิทยาศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นการอบรม เจ้าของกิจการจะมีเวลาเตรียมตัว เพื่อนำเสนอแผนธุรกิจให้แก่คณะกรรมการตัดสิน เพื่อคัดเลือกตัวแทนของธุรกิจนวัตกรรมของแต่ละภูมิภาค ผ่านการ Pitching ไม่เกิน 7 นาที (ถ้าจำไม่ผิด)
สำหรับผู้ที่ผ่านคัดเลือกรอบนี้จะคัดเลือก 5 กิจการ โดยมีลำดับของคะแนนที่สูงสุดจะเป็นผู้ชนะเลิศในรอบภูมิภาค รองลงมาก็จะเป็นอัน 2 และ 3 จบท้ายด้วยรางวัลชมเชยอีก 2 กิจการ โดยผู้ที่ผ่านคัดเลือกจะต้องทำการออกบูธที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับได้เจอตัวแทนของแต่ละภูมิภาคในวันเดียวกัน
รอบอบรมระดับประเทศ
ในรอบนี้ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 20 ทีม จาก 4 ภูมิภาค ทั้ง ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน และ ภาคเหนือ จะทำการเข้าร่วมอบรมธุรกิจ ณ โรงแรม Pullman รางน้ำ เพื่อใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งอบรม ทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งการเป็นอยู่ของผู้เข้าร่วมสามารถเข้าร่วมได้ 2 ท่านต่อกิจการ ซึ่งทางรายการเลี้ยงดูอย่างดี ทั้งอาหารการกิน ห้องพัก ทุกอย่างพรีเมี่ยม
เนื้อหาที่อบรมในรอบนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนที่เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยทางวิทยากรแต่ละท่านก็จะเป็นคนละชุดกับรอบแรก โดยจะเน้นการสอนเนื้อหานวัตกรรมเน้นๆ พร้อมกับให้คำปรึกษากับทุกกิจการที่เข้าร่วมว่า แต่ละทีมควรชูโรงความเป็นนวัตกรรมในประเด็นใหนเป็นหลัก จะได้มีแนวทางว่า วันที่คัดเลือกหา 12 ทีมสุดท้าย แต่ละทีมควรเน้นมิติใหนในการนำเสนอเป็นหลัก
ออกรายการ เฟ้นหา 12 ทีม
เมื่อทั้ง 20 ทีมได้ไอเดียในการออกแบบแผนธุรกิจกันแล้ว ก็จะมีการนัดถ่ายทำรายการ โดยทุกทีมจะเข้ามาถ่ายทำในวันเดียวกัน โดยมีคณะกรรมการตัดสินจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน หน่วยงานพันธมิตร และหน่วยงานผู้จัดงาน ซึ่งทุกทีมจะต้องเข้านำเสนอธุรกิจที่ตนเองทำว่า ทำอะไร แผนการเติบโตเป็นแบบใหน แล้วการเติบโตในแผน เรามีการนำนวัตกรรมมาใช้ในมิติอะไรบ้าง
เงื่อนไขในการผ่านการตัดสินเพื่อเป็น 12 ทีมสุดท้าย จะต้องผ่าน 3 การตัดสินผ่านของคณะกรรมการ ที่กดไฟว่า ธุรกิจดังกล่าวน่าสนใจ ทำได้จริง และมีความเป็นนวัตกรรมจริง ซึ่งทีมที่ได้รับ 3 ไฟเป็นอย่างน้อย ก็มีโอกาสลุ้นได้รับการคัดเลือกเป็น 12 ทีม เพื่อเข้าสู่การหาแชมป์ระดับประเทศต่อไป
รอบรับภารกิจบรรลุเป้าหมาย
สุดท้ายเมื่อได้ 12 ทีมกันแล้ว แต่ละทีมก็จะถูกนัดเพื่อเข้าอบรมอีกรอบ โดยเนื้อหาในการอบรมรอบนี้จะเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม เพราะภารกิจที่แต่ละคนจะต้องทำ จากมาจากการที่เราไปสัญญาอะไรใว้ ตอนที่คัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย อะไรที่เราพูดไป นั่นแหละจะผูกมัดเป็นพันธกิจของแต่ละทีม ซึ่งบอกเลยว่า ภารกิจที่ได้รับ ต่างมีความยากในฉบับที่แต่ละทีมได้รับ ซึ่งภารกิจบางอย่างอาจจะง่ายสำหรับบางทีม แต่ภารกิจทุกอย่างที่ทุกทีมได้รับ มักจะเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของธุรกิจแทบทั้งสิ้น
สำหรับของสาระรีฟ เองนั้นโดนภารกิจให้เปิดตลาดต่างประเทศให้ได้ โดยมีระยะเวลาในการทำเพียงแค่ไม่กี่เดือน ด้วยความที่เราไม่เคยทำตลาดต่างประเทศเลย นั้นคือเรื่องยากมากที่เราจะทำยังไงให้เราทำตลาดต่างประเทศได้ นั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับตัวเอง ซึ่งเชื่อเถอะว่า ทุกทีมคิดแบบเดียวกันว่า ภารกิจที่ให้ เอาไงดีวะเนี่ย ยากชะมัด
ติดตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
12 กิจการ ที่ได้รับภารกิจจะกลับไปทำตามที่ได้รับมอบหมาย โดยทางรายการจะทำการนัดแนะ ถ่ายทำในสถานที่จริง โดยจะเข้ามาดูว่า ภารกิจที่เราได้รับนั้นทำได้ถึงใหนแล้วบ้าง เรามีอุปสรรคอะไรบ้างกับสิ่งที่ได้รับมอบหมาย พร้อมกับเรามีแผนในการต่อยอดอย่างไร
สำหรับสาระรีฟเอง ทางรายการก็จะลงมาถ่ายทำที่ ออฟฟิสสาขาที่ตั้งที่หาดใหญ่ พร้อมกับลงเดินทางไปปัตตานี ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของทางบริษัท ในการถ่ายทำในซีนต่างๆ ที่ทางรายการต้องการนำมาใช้ในการถ่ายทำรายการ เพื่อทำเป็น VTR ให้แก่ผู้ชมได้เห็นถึงกิจการจริงที่ทำอยู่
ออกรายการเฟ้นหา แชมป์ระดับประเทศ
สุดท้ายทั้ง 12 ทีมจะทำการเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คือการนำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย มานำเสนอแก่คณะกรรมการชุดเดิมอีกรอบว่าทำได้ถึงใหน สำเร็จหรือไม่กับการที่เราได้รับมอบหมายภารกิจไป โดยในขั้นตอนนี้จะเป็นการเฟ้นหาแชมป์สุดท้าย ซึ่งมีเพียงแค่ 1 เดียวจากทั้ง 12 ทีม โดยมีเงินรางวัลให้สำหรับผู้ที่ได้แชม์ 1,500,000 บาท เพื่อเป็นการแสดงถึงธุรกิจที่มีศักยภาพสูงสุดในการนำนวัตกรรมไปปรับใช้ในการเติบโตของธุรกิจ
สำหรับปีที่สาระรีฟ กิจการที่ได้แชมป์จะเป็นธุรกิจ Hide and Seek ซึ่งดำเนินธุรกิจทรายแมว ที่ผลิตจากมันสำปะหลัง ช่วยลดกลิ่นของน้องแมวที่ขับถ่ายได้สูงขึ้น เมื่อเทียบกับทรายแมวที่ทำมาจากวัตถุดิบอื่นๆ ซึ่งสำหรับทีมอื่นๆ ก็จะเป็นตำแหน่งเดียวกันหมด ก็คือ 12 เหล่านักธุรกิจนวัตกรรมของซีซัน 1 นั่นเอง
ถ้าเกิดใครชอบเนื้อหาแนวกิน เที่ยว ธุรกิจ ก็ฝากกดติดตามสาระรีฟได้ที่ Facebook TikTok YouTube Instagram กันได้นะครับ
ติดตามผลงานได้
Facebook: https://www.facebook.com/sararifmkt
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCUt1RPFDIOaFnrogwZHi34Q
Tiktok : https://www.tiktok.com/@sararifmkt
Line : https://lin.ee/3KWTirDxI
Website : https://www.sararif.com